เป็นที่ทราบกันดีว่า “โรคเบาหวาน“ เป็นโรคเรื้อรังชนิดหนึ่งที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งผู้ป่วยเบาหวานจะมีอาการน้ำตาลในเลือดสูง เนื่องจากร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดที่ได้จากอาหารไปใช้งานได้ตามปกติ มีสาเหตุมาจากความบกพร่องของร่างกาย โดยตับอ่อนมีการหลั่งอินซูลินที่ผิดปกติ ซึ่งตัวอินซูลินมีหน้าที่นำน้ำตาลในเลือดไปสู่เนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพื่อสร้างพลังงาน เมื่อร่างกายมีอินซูลินไม่เพียงพอก็จะทำให้มีน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นนั่นเอง
โรคแทรกซ้อนผู้ป่วยเบาหวาน
ซึ่งผู้ป่วยโรคเบาหวานมักจะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ตามมา เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดัน โรคหัวใจ ไตวาย อาการชา ปลายประสาทเสื่อม ตาพร่ามัว เกิดต้อกระจก ต้อหิน ซึ่งโรคที่มักเป็นคู่กันกับโรคเบาหวานคือความดันโลหิต ในปัจจุบันการรักษาโรคความดันโลหิต และ เบาหวาน แพทย์จะให้ยามารับประทานเพื่อช่วยประคองและรักษาอาการ
“ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตส่วนใหญ่ล้วนแสวงหาวิธีที่จะรักษาโรคชนิดนี้ การใช้สมุนไพรถือเป็นแนวทางการรักษาอีกทางหนึ่งที่ได้รับความนิยม ซึ่งพบว่ามีสมุนไพรหลายชนิดที่มีรายงานการศึกษาว่ามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในเลือด ทำให้การไหลเวียนของหลอดเลือดดีขึ้น ซึ่งสมุนไพรที่นิยมในการนำมารักษาโรคเบาหวาน และความดันโลหิต จะมีอะไรบ้างนั้น วันนี้ ถั่งเช่า ม.เกษตร จะขอนำทุกท่านมาทำความรู้จักกับสมุนไพรแก้ความดันและเบาหวานกันเลยค่ะ”
สมุนไพรพื้นบ้านแก้เบาหวานลดความดัน
1.มะระขี้นก เป็นไม้เลื้อยและเป็นผักพื้นบ้านของไทย อาจจะนำมาลวกจิ้ม ทานเป็นผักจิ้มน้ำพริกก็อร่อยดี มีวิตามิน A และ C สูง มีสรรพคุณในการลดน้ำตาลในเลือด และสามารถชะลอการเกิดต้อกระจกได้
2.กระเทียม มีคุณสมบัติช่วยลดความดันโลหิตลงได้ ควรรับประทานกระเทียมหัวแก่ หากรับประทานสดจะได้รับคุณประโยชน์มากกว่ากระเทียมที่ปรุงสุกแล้ว
3.ใบย่านาง เป็นสมุนไพรพื้นบ้านใช้แก้เบาหวาน เนื่องจากมีสรรพคุณเป็นยาเย็น เมื่อทานเข้าไปจะทำให้ร่างกายเย็นลง ทำให้ระบบในร่างกายสามารถผลิตอินซูลินมาเผาผลาญน้ำตาลได้เป็นปกติ
4.ตะไคร้ นิยมนำมาประกอบอาหาร เป็นสมุนไพรแก้ความดันและเบาหวานที่เรารู้จักกันดี ซึ่งตะไคร้จะมีสรรพคุณในการขับลมขับปัสสาวะ และยังช่วยลดความดันโลหิตได้อีกด้วย
5.ใบชะพลู เป็นสมุนไพรแก้ความดันและเบาหวาน นิยมนำมารับประทานสด เนื่องจากใบชะพลูมีสรรพคุณในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง มีแคลเซียม วิตามิน A และ C สูงมาก ในตำรับยาสมุนไพรพื้นบ้านจึงนิยมนำใบชะพลูมาต้มเพื่อลดเบาหวานได้
6.ผักตำลึง เป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่ใช้รักษาเบาหวาน ในผักตำลึงมีคุณประโยชน์มากมาย สามารถใช้ได้ทั้ง ใบ ราก และเถาซึ่งมีสูตรหลากหลาย แม้กระทั่งชาวเบงกอลในอินเดียก็นิยมใช้ตำลึงเป็นยาสมุนไพรแก้โรคเบาหวาน
7.ผักเชียงดา มีลักษณะเป็นเถาสีเขียวถือเป็นไม้เลื้อยชนิดหนึ่ง มีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงมาก มีรสขมอ่อนๆ และ เป็นผักที่หมอยาพื้นบ้านใช้เพื่อเพิ่มพละกำลัง อีกทั้งยังสามารถใช้ในการลดน้ำหนักได้อีกด้วย เนื่องจากผักเชียงดาช่วยให้ร่างกายนำน้ำตาลไปเผาผลาญมากกว่าการไปสร้างเป็นไขมันสะสมในร่างกาย ซึ่งจากการศึกษาผู้ป่วยจากโรคเบาหวานที่ใช้ผักเชียงดาในการรักษา สามารถลดปริมาณการใช้ยาแผนปัจจุบันได้ และพบว่าผู้ป่วยเบาหวานบางรายสามารถใช้ผักเชียงดาอย่างเดียวในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
อย่างไรก็ตามการเลือกใช้สมุนไพรในการรักษาโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ถึงแม้ว่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ป่วยแต่สิ่งที่สำคัญที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษคือสมุนไพรบางชนิดอาจส่งผลเป็นพิษต่อร่างกายถ้าหากใช้ไม่ถูกต้อง ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ ก่อนที่จะเลือกใช้สมุนไพรดังกล่าว รวมถึงการเลือกทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารสกัดจากสมุนไพร ผ่านการตรวจสอบและรับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา หรือ อย. ด้วยนะคะเพื่อความปลอดภัยในการบริโภค
ถึงแม้ผู้ป่วยเบาหวาน หรือผู้มีภาวะเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงจะเลือกทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรหันมาใส่ใจเรื่องโภชนาการ ลดอาหารที่มีไขมันสูง และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญที่ต้องทำควบคู่กับการรับประทานยา และอาหารเสริมด้วยนะคะ
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง :
- รู้เท่าทันภาวะเสี่ยงโรคเบาหวาน – อาการ สาเหตุ และวิธีรักษา
- ทำไม “ถั่งเช่า” จึงเหมาะสำหรับ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง?
- โรคเบาหวาน กับการใช้ยาอินซูลิน
- ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ “โรคเบาหวาน”
ขอขอบคุณข้อมูลจากเวบไซต์ : sukkaphap-d.com
ภาพประกอบจาก : share.thaimom.net