กรมการแพทย์ โรงพยาบาลราชวิถี แนะนำให้ประชาชนใส่ใจสุขภาพ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารตามหลักโภชนาการ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารรสเค็มจัด งดสูบบุหรี่ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมถึงสารเสพติดประเภทต่างๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงและเพื่อสุขภาพอนามัยที่ดี
เพชฌฆาตเงียบ “ความดันโลหิตสูง”
นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช โฆษกกรมการแพทย์และรองอธิบดีกรมการแพทย์ ให้ข้อมูลว่า โรคความดันโลหิตสูง เป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชากรทั่วโลกเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ซึ่งภาวะความดันโลหิตสูงมักจะไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า หรืออาการที่บ่งชี้ให้เห็นได้อย่างชัดเจน จึงมักจะถูกขนานนามว่าเป็น “เพชฌฆาตเงียบ” ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงโดยที่ไม่รู้ตัวมาก่อน หากไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกวิธี จะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เป็นสาเหตุทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ภาวะไตวายเรื้อรัง ภาวะหัวใจวาย หัวใจล้มเหลว และ หลอดเลือดสมองตีบหรือแตก เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตตามมาจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ในที่สุด
โดยทั่วไปจะแสดงอาการก็ต่อเมื่อเข้าสู่ระยะสุดท้ายที่เกิดภาวะโรคแทรกซ้อนแล้ว เช่น วิงเวียน ตาพร่ามัว ปวดศีรษะ หัวใจเต้นผิดปกติ เหนื่อย อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- ปัจจัยเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น กรรมพันธุ์ มีพ่อ แม่ พี่น้อง เป็นโรคความดันโลหิตสูง
- ปัจจัยเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงได้ เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง การรับประทานอาหารรสเค็มจัด ขาดการออกกำลังกาย อ้วนหรือน้ำหนักเพิ่มขึ้น ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เครียดเรื้อรัง เพราะฉะนั้น หากพบว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูงควรเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพราะโรคนี้ถือเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ปกติและมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้
วิธีลดความดันโลหิต
วิธีลดความดันโลหิต ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันให้เหมาะสม เช่น
- ลดอาหารรสเค็มจัด
- หลีกเลี่ยงการรับประทานผงปรุงรส หรือผงชูรส ขนมขบเคี้ยว อาหารกระป๋อง ของหมักเกลือ หมักดอง
- รับประทานผักให้มากขึ้น โดยเฉพาะผักพื้นบ้าน เช่น คื่นช่าย กระเทียม ผักใบเขียว
- รับประทานผลไม้ที่ไม่หวานจัดให้มากขึ้น เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง สาลี่ มะละกอ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมง/วัน
- งดสูบบุหรี่ หรือหลีกเลี่ยงการได้รับควันบุหรี่
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ผ่อนคลายความเครียด ความวิตกกังวล
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
- ทำกิจกรรมที่รู้สึกผ่อนคลาย เช่น รดน้ำต้นไม้ อ่านหนังสือ ฟังเพลง
- ควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม
- ตรวจวัดค่าระดับความดันโลหิตเป็นประจำ
- เข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง และมีอนามัยที่ดีอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตามหากพบว่ามีอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป
ขอขอบคุณ
ข้อมูล : กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
เรียบเรียง : คอร์ดี้ไทย (ถั่งเช่า ม.เกษตร)
ภาพ : www.healthline.com