เรียบเรียงจาก หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ [ฉบับ วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม 2557]
สมุนไพรจีนชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกับตัวหนอนกระจิ๋ว บางคนเรียกว่า “หนอนตายอยาก” หรือในบางตำราจะเรียกว่า “หญ้าหนอน” “ถั่งเช่า“ หรือ “ตังถั่งเช่า“ เป็นเห็ดราชนิดหนึ่งที่ชอบขึ้นในช่วงฤดูหนาว เมื่อถึงฤดูร้อนตัวหนอนก็จะตาย หลังจากนั้นเห็ดราก็จะงอกออกจากตัวหนอน ลักษณะเป็นเส้น ตรงส่วนหัวของหนอน จะเรียกว่า “ถั่งเช่า” หรือ “เห็ดถั่งเช่า”“
หลายคนรับประทานถั่งเช่าด้วยเหตุผลที่ว่า เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงของยาไวอากร้า แต่เมื่อใช้งานแล้วนกเขาไม่ยอมล้ม จึงคิดว่าการกินถั่งเช่าน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเพราะใช้งานแล้วก็แล้วกัน ซึ่งข้อมูลนี้ไม่ตรงกับเป็นความจริงเท่าไหร่ เนื่องจากถั่งเช่ามีผลต่อผู้สูงอายุที่มีเป็นโรคเบาหวาน หรือมีภาวะความดันโลหิตสูง หากใช้ในปริมาณที่มากเกินไปอาจจะส่งผลให้เกิดความร้อนในร่างกายและความดันโลหิตเพิ่มขึ้น เป็นเหตุให้โรคประจำตัวมีอาการรุนแรงมากยิ่งขึ้น
สมุนไพรจีนถั่งเช่า จัดเป็นยาบำรุงอย่างแรง การใช้สมุนไพรชนิดนี้จึงต้องอยู่ภายใต้การควบคุมและดูแลของแพทย์เท่านั้น
จากข้อมูลที่บันทึกไว้ในตำราแพทย์จีนโบราณ ถั่งเช่าจะมีกลิ่นหอม รสหวาน มีสรรพคุณในการป้องกันโรคที่เกี่ยวกับปอด บำรุงตับ บำรุงไต และกระดูก ช่วยให้มีกำลัง ช่วยในการห้ามเลือด บรรเทาอาการไอ ละลายเสมหะ แก้จุกเสียด ช่วยในการปรับสมดุลของร่างกาย ความพิเศษขของถั่งเช่าคือ เป็นสมุนไพรเพียงชนิดเดียวที่สามารถบำรุงหยิงและหยางได้ในเวลาเดียวกัน
ศ.ดร.มณจันทร์ เมฆธน หัวหน้าภาควิชาสัตววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน ในฐานะผู้วิจัยถั่งเช่า กล่าวว่า เดิมถั่งเช่ามีพื้นเพมาจากทิเบต ในทิเบตจะรู้จักถั่งเช่ามาเป็นเวลานานนับพันปีแล้ว ชาวบ้านจะไปหาในธรรมชาติ จริง ๆ แล้วถั่งเช่า ก็คือเชื้อราที่ฆ่าแมลงคล้าย ๆ เห็ด เชื้อราตัวนี้จะฆ่าหนอน โดยสปอร์จะเกาะติดที่ตัวหนอน แล้วก็แทงเส้นใยเข้าไปที่ตัวหนอน จากนั้นก็ใช้สารละลายในตัวหนอนเป็นอาหารของมัน ในขณะเดียวกันนั้นเส้นใยก็จะเจริญเติบโตเต็มตัวหนอน เมื่ออาหารหมดลงตัวหนอนก็จะตาย เนื่องจากภายในตัวของตัวหนอนเต็มไปด้วยเส้นใยของเชื้อรา ทำให้ขาดอากาศหายใจ จะสังเกตว่าก่อนที่หนอนตายจะหันส่วนหัวขึ้นด้านบน เพราะต้องการอากาศหายใจ เมื่อถึงฤดูร้อนเจ้าเชื้อราตัวนี้ก็จะสืบพันธุ์ เส้นใยในตัวหนอนก็จะรวมตัวกันแทงทะลุออกมาทางส่วนหัวตัวหนอนขึ้นสู่พื้นดิน เวลากดดูจะแข็งเหมือนมัมมี่
ศ.ดร.มณจันทร์ เมฆธน กล่าวว่า ปัจจุบันการผลิตถั่งเช่าไม่จำเป็นต้องใช้ตัวหนอนเนื่องจากมีอาหารเทียมที่เลียนแบบตัวหนอน โดยใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาควบคุมการผลิต ทำให้ได้สารออกฤทธิ์ที่สำคัญ คือ คอร์ไดซิปิน ในปริมาณที่แน่นอน ไม่มีโลหะหนักเกินค่ามาตรฐาน
สมัยก่อนวิธีทานสมุนไพรถั่งเช่า ต้องนำมาต้ม ซึ่งการต้มจะเป็นการสกัดสารที่ออกฤทธิ์ในเชื้อรา หรือ สารคอร์ไดซิปิน ออกมาแล้วนำมาดื่มกิน เนื่องจากสารคอร์ไดซิปิน จะละลายในน้ำที่มีอุณหภูมิสูง แต่ไม่สูงจนเกินไป
ปัจจุบัน ถั่งเช่าที่ผลิตภายใต้อนุสิทธิบัตรการเพาะเลี้ยงของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (ถั่งเช่า ม.เกษตร) ได้ ผ่านการคัดเลือกและพัฒนาสายพันธุ์โดย ศ.ดร.มณจันทร์ เมฆธน ร่วมกับคอร์ดี้ไทยไบโอเทค มานานกว่า 10 ปี โดยนำเชื้อรามาต้มสกัด นำมาทำให้แห้ง แล้วนำไปอัดเม็ดเป็นถั่งเช่าแคปซูล สามารถรับประทานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ของการรับประทานสมุนไพรภายใต้คุณภาพและมาตรฐานงานวิจัย.