- มะเร็งเต้านมในผู้หญิง 5 – 10 % ล้วนถ่ายทอดมาจากพันธุกรรม ส่วนที่เหลือ 90% นั้นมาจากสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เสี่ยงมะเร็งของแต่ละคน
- ในปัจจุบันอาหารต้านมะเร็งส่วนใหญ่มักจะอยู่ในรูปของผักผลไม้ ดังนั้นการเลือกซื้อผักผลไม้จากแหล่งที่ปลอดภัยและได้รับการรองรับว่าไม่พบสารเคมีตกค้างจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะแทนที่จะได้รับสารต้านมะเร็ง อาจจะได้รับสารก่อมะเร็งจากสารเคมีพวกนี้แทน
- อาหารเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในการป้องกันโรคมะเร็งเต้านม สำหรับผู้หญิงที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคมะเร็ง หรือถึงวัยที่ต้องตรวจเต้านม ควรรับการตรวจคัดกรองเป็นประจำทุกปีเพื่อป้องกันโรคในอนาคต
หลายคนอาจจะไม่ได้สังเกต แต่ทุกวันนี้จะเห็นได้ว่าผู้หญิงเริ่มมีการใส่ใจดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และการออกกำลังกาย เพราะไม่ว่าใครก็ไม่อยากป่วยกันทั้งนั้น ยิ่งเมื่อกล่าวถึงมะเร็งเต้านม ซึ่งเป็นมะเร็งอันดับต้นๆ ที่ใครหลายคนกลัว ยิ่งทำให้เทรนการดูแลสุขภาพได้รับความสนใจมากขึ้น ไม่ใช่แค่เพียงการตรวจสุขภาพประจำปี แต่ยังรวมไปถึงอาหารที่เราทานกันอยู่ทุกวันอีกด้วย
6 กลุ่มอาหารต้านมะเร็งที่พบงานวิจัยทางการแพทย์
1. ผักตระกูลครูซิเฟอรัส
ผักตระกูลครูซิเฟอรัส (cruciferous) ได้แก่ กะหล่ำดอก บร็อคโคลี ผักกาด ผักกลุ่มนี้มากไปด้วยสารประกอบชื่อ อินโดล-ทรี-คาร์บินัล (indole-3-Carbinol) และซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) ซึ่งสารเหล่านี้จะช่วยเพิ่มการขับฮอร์โมนเอสโตรเจนชนิดที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งเต้านมออกมา ทั้งนี้ยังมีการวิจัยพบว่า สารประกอบทั้งสองสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากได้อีกด้วย สำหรับการรับประทาน นิยมนำไปลวกในน้ำเดือดไม่เกิน 2-3 นาที หรือจะรับประทานเป็นแบบต้นอ่อนแรกแตกหน่อแบบสดๆก็ได้ เพื่อจะได้รับสาระสำคัญนี้สูง โดยปัจจุบันยังมีการสกัดสารแล้วทำออกมาในรูปแบบอาหารเสริมเพื่อใช้ในการบำรุงร่างกาย ง่ายและสะดวกต่อการดูแลสุขภาพสำหรับคนที่ไม่มีเวลา
2. เห็ด
เห็ดนับเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในอาณาจักรเห็ดรา ซึ่งโดดเด่นออกมาจากอาณาจักรพืชและสัตว์ เห็ดหลายชนิดมีคุณมากกว่าโทษ โดยเห็ดหลายชนิดนั้นมีสรรพคุณในการเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ต่อต้านอนุมูลอิสระ สามารถซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายและป้องกันมะเร็ง จากงานวิจัยของ International Journal of Cancer พบว่าการรับประทานเห็ดต่างๆ วันละ 10 กรัม จะให้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพ เห็ดที่ได้รับการยอมรับว่าสามารถป้องกันโรคมะเร็ง และนิยมนำมาสกัดเป็นอาหารเสริม ได้แก่ เห็ดหอม (Shitake) เห็ดหลินจือ (Ganoderma Reishi) เห็ดไมตาเกะ (Maitake) ถั่งเช่า (Cordyceps) เห็ดหางไก่งวง (Coriolus versicolour) เห็ดหิ้งไซบีเรีย (Chaga)
3. อาหารเส้นใยสูง แคลอรีต่ำ
จากงานวิจัยพบว่า การได้รับไฟเบอร์หรือเส้นใยจากธรรมชาติ อย่างน้อยวันละ 10 กรัม สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมได้ 7% มีเหตุผลที่สนับสนุนคือ เส้นใยจากธรรมฃาติจะช่วยลดระดับความเข้มข้นของฮอร์โมนเอสโตรเจนชนิดไม่ดีในร่างกายลง โดยอาหารที่มากไปด้วยเส้นใยจากธรรมชาติ และแคลอรีต่ำ จะพบในพืชตระกูลถั่ว เฃ่น ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วขาว ถั่วพินโต ถั่ววอลนัต ถั่วพิสตาชิโอ ถั่วพีแคน
4. อาหารที่อุดมไปด้วยสารประกอบฟีนอลิก
สารประกอบฟีนอกลิก (phenolic compound) หรือที่เรียกว่าสารประกอบฟีนอล ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยในการเจริญเติบโตของพืช แต่ยังมีสรรพคุณที่ดีต่อร่างกายมนุษย์ คือ มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดมะเร็ง สาระสำคัญในกลุ่มฟีนอลิกสามารถพบได้ในพืชหลายชนิด เช่น
- คาเทชิน (Catechin) ในชาเขียว
- เรสเวอราทรอล (Resveratrol) ในไวน์แดง และในผิวขององุ่นแดง
- แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ในผลไม้ตระกูลเบอรี่ เช่น บลูเบอรี่ องุ่น
- แคปไซซิน (Capsaicin) พบในพริก
- เคอคิวมิน (Curcumin) พบในขมิ้นชัน
- จินเจอรอล (Gingerol) พบใน ขิง
- ยูจินอล (Eugenol) พบใน ใบกระเพรา กานพลู ตะไคร้
5. อาหารที่อุดมด้วยสารกลุ่มวิตามินเอ
วิตามินเอหรือเรตินอลที่รู้จักกันนั้น เรารู้กันว่าเป็นกลุ่มสารที่ช่วยในการบำรุงสายตาและผิวพรรณ แต่ความสามารถของสารกลุ่มนี้ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะอาหารที่อุดมไปด้วยสารกลุ่มวิตามินเอ มีการวิจัยพบว่าสามารถป้องกันโรคมะเร็งได้อีกด้วย เช่น
- มะเขือเทศชนิดปรุงสุก และฟักข้าว อุดมด้วยสารไลโคพีน (Lycopene)
- ผักโขม ผักเคล อุดมด้วยสารซีแซนทีน ลูทีน (Zeaxanthin and Lutein)
- ผักสีส้มเหลือง เช่น ฟักทอง แครอท มันเทศเหลือง อุดมด้วยสารเบต้าและแอลฟ่าแคโรทีน (Beta and Alpha-Carotene)
6. อาหารที่ช่วยลดการอักเสบซ่อนเร้น
อาหารที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย อาหารกลุ่มนี้จะช่วยลดการกระตุ้นภาวะอักเสบฉับพลันและเรื้อรังที่อาจเป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นการก่อโรคมะเร็ง จึงเป็นอาหารที่ควรหมั่นบริโภคเป็นประจำ เช่น
- ขมิ้นชัน ซึ่งอุดมด้วยสารเคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoid)
- ปลาและน้ำมันปลา ซึ่งอุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega-3 Fatty Acid)
- น้ำมันมะกอก ซึ่งอุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 9 (Omega-9 Fatty Acid) และสารกลุ่มโพลิฟีนอล (Polyphenol)
นอกจากการรับประทานอาหารที่มีประโยช์และการออกกำลังกายแล้ว การหมั่นตรวจเช็คสุขภาพร่างกายตามวัยนั้นก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพราะการเกิดมะเร็งนอกจากจะเกิดจากกรรมพันธุ์แล้ว สิ่งแวดล้อมรอบตัวก็สามารถกระตุ้นให้เกิดโรคได้เช่นกัน จากที่เห็นคนที่หมั่นดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองเป็นประจำแต่สุดท้ายก็ยังเป็นมะเร็ง ดังนั้นเราจึงควรดูแลตัวเองอย่างดี ควบคู่ไปกับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอด้วย
ขอขอบคุณ
ข้อมูล : พญ. พัฒศรี เชื้อพูล โรงพยาบาลสมิติเวช
ภาพ : www.thaihealth.or.th