อาหารเสริมบำรุงข้อเข่า,หัวเข่ามีเสียง ขึ้นบันได,หัวเข่าดังกรอบแกรบ,ข้อเข่ามีเสียง

คุณเคยมีอาการเหล่านี้หรือไม่ ?

  • รู้สึกว่าข้อเข่าขัดๆ ตึง หรือฝืดๆ เคลื่อนไหวได้ไม่เต็มที่
  • ได้ยินเสียงดังกรอบแกรบเวลาขยับเข่า หรือเคลื่อนไหว
  • ข้อยึด ติด เหยียดตัว งอเข่าได้ยาก
  • บางครั้งรู้สึกปวดเข่าเมื่อยืนนานๆ เดินมากๆ หรือขณะที่เดินขึ้นลงบันได ฯลฯ

หากคุณเคยมีอาการเหล่านี้ อย่าได้นิ่งนอนใจเด็ดขาด เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายที่บ่งบอกว่า เข่าของคุณเริ่มเสื่อมแล้ว อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพข้อมากนัก โดยเข้าใจว่าข้อเสื่อมหรือข้อเข่าเสื่อมเป็นโรคของคนสูงอายุเท่านั้น แท้ที่จริงแล้วคนหนุ่มสาวโดยเฉพาะวัยทำงานทั้งหลาย หากใช้งานข้อมากเกินพอดี ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้เช่นเดียวกัน

ปัจจุบันคนไทยมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคข้อเสื่อม จากสถิติ พบว่ามีผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมมากกว่า 6 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยข้อที่เสื่อมมากที่สุด คือ ข้อเข่า ในอดีตโรคข้อเข่าเสื่อมมักจะพบในผู้สูงอายุ แต่ปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมมีอายุน้อยลง ซึ่งเกิดจากหลาย ๆ ปัจจัย อาทิเช่น

ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไปทำให้คนไทยมีน้ำหนักตัวเฉลี่ยสูงขึ้นกว่าเกณฑ์มาตรฐาน เมื่อมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป ทำให้ข้อต้องแบกรับน้ำหนักมากขึ้นกว่าปกติตลอดเวลาใช้งาน โดยน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ทุกๆ 1 กิโลกรัม จะทำให้มีแรงกดทับผ่านข้อเพิ่มขึ้นถึง 4-7 กิโลกรัม 

พฤติกรรมการใช้งานข้อเข่าไม่ถูกต้องติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ เช่นการนั่งคุกเข่า นั่งยองๆ นั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิเป็นเวลานานๆ ตลอดจนการยืน การเดิน การขึ้นลงบันไดบ่อย ๆ หรือ หรือแม้กระทั่งการใส่รองเท้าส้นสูงของสาวๆ ในวัยทำงาน เนื่องจากต้องเกร็งกล้ามเนื้อต้นขาตลอดเวลาทำให้ข้อเข่าต้องรองรับน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก รวมถึงการได้รับบาดเจ็บและเกิดอุบัติเหตุที่ข้อเข่าไม่ว่าจะเป็นเอ็นฉีก หรือ กระดูกข้อเข่าแตก เป็นต้น

โรคข้อเสื่อม” จัดเป็นโรคข้อเรื้อรังชนิดหนึ่ง มีสาเหตุมาจากกระดูกอ่อนระหว่างข้อเข่าซึ่งมีโครงสร้างเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า CollagenType II มีหน้าที่รองรับน้ำหนัก และลดแรงกระแทก รวมถึงให้ความแข็งแรงแก่ข้อต่อในขณะที่มีการเคลื่อนไหว มีสภาพบางลงและสึกกร่อนลงจนปลายกระดูกเริ่มเข้าใกล้และเกิดการเสียดสีกัน จนอักเสบและรู้สึกเจ็บปวดบริเวณนั้นๆ กระทั่งเหยียดงอไม่สุดได้ตามปกติ และไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่เปลี่ยนไปจากเดิมทั้งการเดิน วิ่ง เล่นกีฬา ท่องเที่ยว รวมถึงไม่สามารถประกอบกิจวัตรประจำวันได้เหมือนเช่นเคย ที่สำคัญโรคข้อเสื่อมยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นการรักษาจึงเป็นไปเพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด และควบคุมอาการของโรคด้วยการกินยาหรือการผ่าตัดซึ่งถือว่าเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ

สำหรับยาที่ใช้กินบรรเทาอาการปวด ได้แก่ พาราเซตามอล ยาแก้ปวดแอสไพริน ยาบรรเทาปวดและลดการอักเสบ เช่น ไดโคลฟิแนค (diclofenac) ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) เซเลคอกซิบ (celecoxib) อินโดเมทาซิน (indomethacin) เป็นต้น ซึ่งเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ ถ้ายังคงใช้ข้อต่อไป ข้อก็จะปวดอักเสบอีกได้ ในรายที่มีอาการไม่มากนัก อาจใช้ยาเหล่านี้ช่วยบรรเทาอาการได้บ้าง

ปัจจุบันมียาที่มีฤทธิ์คล้ายเป็นอาหารสำหรับกระดูกอ่อน คือ กลูโคซามีน (glucosamine) เพื่อทำให้กระดูกอ่อนแข็งแรงขึ้น ซึ่งจะใช้ได้ผลในผู้ป่วยบางราย แต่ในรายที่กระดูกอ่อนเสื่อมสภาพไปหมดแล้วยานี้จะไม่ได้ผล สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บปวดรุนแรง อาจมีความจำเป็นต้องใช้ยาฉีดที่เป็นยาสเตียรอยด์ ฉีดเข้าข้อเพื่อลดการอักเสบเฉพาะที่ นอกจากนี้ ในรายที่ใช้ยาไม่ได้ผลอาจต้องทำการรักษาโดยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมโดยเสียค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด ครั้งละหลายหมื่นถึงเป็นแสนบาทต่อราย

อย่างไรก็ดีในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ทางธรรมชาติ อีกหนึ่งทางเลือกที่นำมาช่วยเสริมการดูแลข้อที่ได้รับความสนใจมากขึ้น ทั้งนี้มีงานวิจัยพบว่า คอลลาเจนไทพ์ทู (UC-II) มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมได้ดี สามารถลดอาการปวดของข้อเข่า ลดอาการอักเสบ  ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและเดินได้ดีขึ้น และยังเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมได้อีกด้วย

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง : เซ็นโทร (Centro) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร บำรุงข้อเข่า สารสกัดจากงาดำ ใบบัวบก คอลลาเจน ไทพ์-ทู และโปรตีนสกัดจากถั่วเหลือง

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
ภาพ : www.lanutrition.fr

หยุด “ข้อเข่าเสื่อม” ก่อนวัยอันควร เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า