ตรวจสุขภาพ,ตรวจอะไรบ้าง,เบาหวาน,ความดัน,ความดันโลหิตสูง ,น้ำตาลในเลือดสูง ,ไขมันสูง, เบาหวาน ,หลอดเลือดหัวใจ,หลอดเลือดสมอง,ตับแข็ง,มะเร็ง

การตรวจสุขภาพสำคัญอย่างไร มีความจำเป็นต้องตรวจหรือไม่ และควรเริ่มตรวจตั้งแต่อายุเท่าไร

เป็นคำถามที่หลายท่านคงนึกสงสัยอยู่ในใจ คำตอบคือสำคัญมาก เนื่องจากปัญหาสุขภาพ เช่น ความดันโลหิตสูง น้ำตาลในเลือดสูง ไขมันสูง ถ้าเป็นในระยะแรกมักไม่แสดงอาการ แต่หากปล่อยทิ้งไว้ก็อาจลุกลามจนกลายเป็นโรคเรื้อรังรักษายาก เช่น โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน หลอดเลือดสมองอุดตันหรือแตก โรคตับแข็ง โรคมะเร็ง ซึ่งโรคเรื้อรังเหล่านี้ถ้ารู้ปัญหาตั้งแต่ระยะแรกก็สามารถป้องกันและรักษาให้หายได้ แต่คนส่วนใหญ่มักรอให้มีอาการก่อนจึงค่อยมาตรวจสุขภาพ การตรวจสุขภาพเป็นการหาปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค บางโรคอาจมีความผิดปกติซ่อนอยู่ แอบแฝงอยู่นานเป็นปีแต่ยังไม่แสดงอาการ การตรวจสุขภาพก่อนจะทำให้เราได้รู้ถึงความเสี่ยง หรือโอกาสที่จะเป็น เพื่อจะได้เตรียมวิธีป้องกันได้ทัน หากบางโรคตรวจเจอเร็ว ก็จะมีโอกาสในการรักษาให้หายมากกว่าเจอในขั้นที่รุนแรง

ใครบ้างที่ต้องตรวจสุขภาพ พญ.กฤดากร เกสรคำ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Addlife Total Check Up Center ชั้น 1 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) ให้คำแนะนำว่า ทุกคนควรจะได้รับการตรวจสุขภาพ ซึ่งโดยทั่วไปจะเริ่มตรวจสุขภาพได้ตั้งแต่อายุ 30 ในการนี้ก็ขึ้นอยู่กับภาวะสุขภาพ อายุ และประวัติครอบครัว โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงด้านปัญหาสุขภาพ วัยทำงานที่มีภาวะความเครียดพักผ่อนน้อยไม่มีเวลาออกกำลังกาย มีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน วัยผู้สูงอายุ เพศหญิง เพศชายก็จะมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน บางคนที่มีความเสี่ยงมากอาจต้องได้รับการตรวจเฉพาะทางเพิ่มเติม ซึ่งเหล่านี้แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและให้คำแนะนำเรื่องโปรแกรมการตรวจที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยหากอายุมากขึ้นโปรแกรมตรวจสุขภาพก็จะมีความละเอียดเพิ่มเติมขึ้นตามวัย เมื่อร่างกายเสื่อมถอยมากขึ้นความเสี่ยงของโรคต่างๆ ก็จะสูงขึ้น

อายุ 30-40 ปี อยู่ในช่วงวัยทำงานที่มีพฤติกรรมเสี่ยงหลายอย่าง ทั้งรูปแบบการใช้ชีวิต การรับประทานอาหาร จึงควรได้รับการตรวจสายตา ความดันลูกตา ระบบเม็ดเลือด น้ำตาล ไขมัน ค่าการทำงานตับ ค่าการทำงานไต กรดยูริก ความยืดหยุ่นหลอดเลือด เอ็กซ์เรย์ปอด อัลตร้าซาวด์ช่องท้อง ตรวจการทำงานของหัวใจ เช่น EKG ตรวจปัสสาวะ อุจจาระ

อายุ 40-50 ปี จะได้รับการตรวจพื้นฐานเหมือนกับอายุ 30-40 ปี และตรวจเพิ่มเติมละเอียดมากขึ้น เช่น ตรวจคัดกรองมะเร็ง ตรวจฮอร์โมน การทำงานของปอด ตรวจการทำงานหัวใจที่ละเอียดมากขึ้น เช่น EXERCISE STRESS TEST, ECHOCARDIOGRAM VO2Max แบะสำหรับหญิง ชายจะมีการตรวจที่แตกต่างและเพิ่มเติมอีก คือ

  • ผู้หญิง ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และหากอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่อง Mamogram แต่อาจต้องตรวจเร็วกว่านี้ถ้ามีประวัติว่าคนอายุน้อยกว่า 40 ปี ในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม
  • ผู้ชาย ตรวจต่อมลูกหมากและตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก

อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป มีการตรวจพื้นฐานเหมือนกับอายุ 40-50 ปี และเพิ่มการตรวจเพิ่มเติมเน้นค้นหาโรค เนื่องจากปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักจะเป็นโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดสมอง มะเร็ง และภูมิคุ้มกันต่ำเป็นหวัดบ่อย เช่น

  • ตรวจวัดระดับสารอาหารวิตามิน เช่น วิตามินดี
  • Low Dose CT Scan Lung ตรวจโรคปอด มะเร็งปอด
  • CT Heart Calcium Score ตรวจหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
  • MRI and MRA Brain ตรวจดูเนื้อสมอง โรคสมองขาดเลือด เนื้อสมองฝ่อ มะเร็งสมอง
  • Carotid Intima Thickness and Color Doppler ตรวจวัดการอุดตันและการไหลเวียนเลือดของเส้นเลือดแดงใหญ่บริเวณคอที่นำเลือดไปเลี้ยงสมอง
  • CT Intra-Abdominal Fat วัดปริมาณไขมันในช่องท้องซึ่งสัมพันธ์กับ (หรือบอกความเสี่ยง)โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง โรคความดันโลหิตสูง

นอกจากนี้การตรวจยีน (Gene Testing) เพื่อหาความเสี่ยงของการเกิดโรคก็มีความสำคัญ เพราะสามารถบอกความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆได้ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยไม่ต้องรอให้ผลเลือดผิดปกติ มีการวางแผนดูแลสุขภาพทั้งการออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร และการตรวจทางการแพทย์ที่มีความเหมาะสมตามความเสี่ยงทางพันธุกรรม

แม้กระนั้นการตรวจสุขภาพก็ควรคำนึงถึงสถานที่ตรวจ สถานที่ตรวจควรเป็นสถานที่สะอาด ปลอดเชื้อ ไม่เสี่ยงต่อการติดโรค และเมื่อตรวจสุขภาพแล้วก็จะได้ทราบถึงสุขภาพร่างกายโดยรวม จะได้รู้วิธีการปฏิบัติตน ป้องกัน และดูแลร่างกายตนเองได้อย่างเหมาะสม ทั้งการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต เพื่อสุขภาพที่ดีและปราศจากโรคภัย

ขอขอบคุณ
ข้อมูล : พญ.กฤดากร เกษรคำ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Addlife Total Check Up Center ชั้น 1 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี)
ภาพ : bankstoday.net

“ตรวจสุขภาพ” ควรเริ่มตรวจตั้งแต่อายุเท่าไร